Cannabis.jpg

 

กัญชาเป็นยารักษาโรคชั้นดี โดยประโยชน์  ของกัญชา คือ รักษาโรคข้อ รักษามะเร็ง รักษาโรคลมชัก ลดอาการปวด แก้โรคนอนไม่หลับ แก้โรคบิด   ปวดท้อง แก้โรค กล้ามเนื้อกระตุก แก้อาการปวดหัว ไมเกรน แก้โรคซึมเศร้า  เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจ ส่งผลเสียได้เหมือนกัน  ทั้งนี้เมื่อกัญชาถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อการรักษา  เราควรรู้จักกับสารเคมีที่สำคัญ 2 ตัว ที่มี อยู่ในกัญชาอย่าง THC และ CBD  ว่ามีความคล้ายคลึง หรือมีข้อแตกต่างอย่างไรในการให้ผลการรักษา   

What_is_CBD_sample1_720x340.jpg 

 สาร CBD (Cannabidiol)

จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า สารสำคัญ 2 ชนิดนี้ สามารถนำมาใช้บำบัดหรือรักษาโรคได้


 สาร CBD (Cannabidiol) : มีคุณสมบัติลดอาการเจ็บปวด ลดการอักเสบของแผล ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ลดอาการชักเกร็ง และลดอาการคลื่นไส้   

สาร THC (Tetrahydrocannabinol) : มีคุณสมบัติต่อจิตประสาท ทำให้เกิดความผ่อนคลาย และเคลิบเคลิ้ม หากได้รับในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดอาการตึงเครียดได้

 

CBD_receptor_01_sample.jpg


สารทั้งสองชนิดหากอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ ทั้งสองประกอบด้วย คาร์บอน 21 อะตอม ไฮโดรเจน 30 อะตอม และอ็อกซิเจน 2 อะตอม แต่ที่ต่างกันก็เพราะ “การเรียงตัวของอะตอม” ไม่เหมือนกัน  

โดย ทีเอชซี THC(Tetrahydrocannabinol) และ ซีบีดี CBD (Cannabidiol) มีข้อแตกต่างที่สำคัญ คือ ทีเอชซีจะทำให้เกิดอาการมึนเมาหรือที่ฝรั่งเรียกว่า HIGH พูดง่ายๆ ก็คือสารตัวนี้มีฤทธิ์ต่อจิตประสาทนั่นเอง ส่วนซีบีดีเป็นสารที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท แถมยังออกฤทธิ์ตรงข้ามกับทีเอชซี คือ ไม่ทำให้เกิดอาการมึนเมาในตัวมันเอง และยังไปยับยั้งการเกิดอาการมึนเมาจากทีเอชซีได้อีกด้วย

การใช้สารสกัดจากกัญชาที่มีซีบีดี เป็นหลักก็เพื่อในการรักษาโรคบางอย่าง เช่น โรคลมชักในเด็ก จึงจะเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง

 สำหรับการรักษาโรคมะเร็งด้วยการใช้กัญชานั้น ถ้าสามารถใช้สายพันธุ์ของกัญชาที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะแนะนำ สายพันธุ์ที่มี THC มากกว่า 20% และ CBD น้อยกว่า1% แต่บางแห่งก็แนะนำสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป และสกัดเป็นยา อย่างถูกวิธี มะเร็งก็จะหายได้ภายใน 3-6 เดือน ซึ่งมีคนเคยใช้เวลาเพียง 1 เดือน ก็สามารถหายจากมะเร็งได้ แต่ต้องได้รับสารสกัดในขนาดสูง