*( MICRO-DOSING คืออะไร? )*

Microdosing หมายถึงการบริโภคในจำนวนที่น้อยกว่าปกติหลายเท่า ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องใช้กับการเสพยาเพียงอย่างเดียว เช่นการกิน ช็อคโกแลต ด้วยการกินแค่วันละหนึ่งในสิบส่วน แทนที่จะกินให้หมดทั้งแท่งในคราวเดียว การ Microdose Psychedelic ก็เช่นกัน ใช้เพียงประมาณ 1 ใน 10 ของจะไม่ทำให้ รู้สึกเมา หรือเกิดอาการหลอน เพราะปริมาณสารที่เข้าสู่ร่างกายนั้นน้อยมากๆ

มีงานวิจัยโดย นักวิจัย และ จิตแพทย์ หลายคนที่ชี้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลังการ Microdosing Psychedelic ผู้เสพส่วนใหญ่บอกว่า รู้สึกเข้าใจตัวเอง ความเป็นไปของโลก ลดความวิตกกังวล ตลอดจนถึงสุขภาพจิตและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาก หลายคนให้เหตุผลว่า พวกเขารู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น จากคนที่เคยมองโลกแง่ร้าย ก็หันมองในมุมที่ดีมากขึ้น รู้สึกรักผู้คนรอบข้างมากขึ้น และเข้าใจถึงความเป็นไปของโลกมากขึ้น แม้คำพูดของคนเมาอาจฟังดูไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่นัก แต่การที่ผู้คนหลายคนจากทั่วโลกพูดเป็นเสียงเดียวกัน มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

นอกจากงานวิจัย ผู้ใช้งานจริงอย่าง Ayelet Waldman นักเขียนหญิงชาวแคลิฟอร์เนียผู้ต้องต่อสู้กับโรคซึมเศร้าขึ้นรุนแรง  ที่ซ้ำร้ายยังส่งผลร้ายต่อชีวิตครอบครัวของเธอด้วย เธอต้องทนทุกข์อยู่กับโรคร้ายอยู่เป็นเวลานาน เธอกลับหายได้ด้วยการ Microdosing LSD เป็นเวลาหนึ่งเดือน

Ayelet เล่าว่าครั้งแรกที่เธอทดลองใช้ เธอไม่ได้เห็นภาพหลอนใดๆ ทั้งสิ้น และทำงานในบ้านตามปกติ เหลือบไปต้นไม้ในสวน แล้วเกิดความคิดกับตัวเองว่า ดอกไม้ที่กำลังจะบานเหล่านั้นมันช่างสวยเหลือเกิน และนั่นคือวินาทีที่ Ayelet ได้ข้อคิดสำคัญของชีวิต

หลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นความงามของดอกไม้ เพราะมัวแต่จมปลักอยู่กับความเศร้า เธอเล่าว่า LSD ทำให้สมองของเธอสื่อสารกันในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เธอจึงคิดสิ่งที่เธอไม่สามารถคิดได้ด้วยตัวเองมาก่อน เธอจะใช้ LSD เจือจางทุกๆ สามวัน พร้อมกับจดบันทึกเรื่องราวการรักษาของเธอ และถ่ายออกมาเป็นหนังสือเรื่อง A really Good Day

จิตแพทย์หลายคนบอกว่า หากมีปัญหาเรื่องโรคที่เกี่ยวกับจิตใจ ควรอยู่ให้ห่างจาก Psychedelic เพราะหากไม่ได้มีคำแนะนำ และการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ควบคุมการใช้งานในปริมาณที่เหมาะสม อาจทำให้โรคร้ายเหล่านั้น เลวร้ายกว่าเดิม

อะไรที่มากเกินไปย่อมไม่ดี ทุกๆ อย่างล้วนมีข้อดีในตัวของมันเอง โดยเฉพาะ Psychedelic ที่เปรียบเสมือนกับดาบสองคม ที่หากนำมาใช้อย่างถูกวิธี มันสามารถเป็นยารักษาโรคที่แสนวิเศษ กลับกันก็กลายเป็นประสบการณ์น่ากลัวที่อาจนำไปสู่การสูญเสีย ปัจจุบัน Psychedelic ยังถูกจัดเป็นสารเสพติดอยู่ และยังมีเรื่องที่ต้องศึกษาอีกมาก รวมถึงความลับต่างๆ ของสารสุดหลอนนี้ด้วยเช่นกัน